ประวัติหลวงพ่อดำ (Luang Por Dam)
หลวงพ่อดำ(องค์จริง) ที่ประเทศอินเดีย(ซ้าย) และหลวงพ่อดำ(จำลอง) ที่วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง(ขวา)


ขอบคุณภาพจาก เพจ พระครูอินเดีย
"หลวงพ่อดำ" (Luang Por Dam) หรือพระพุทธรูปที่ประดิษฐานในอุโบสถชั้นล่างของวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง มีลักษณะองค์พระเป็นสีดำ มีหน้าตักขนาด ๕๙ นิ้ว ปางมารวิชัย องค์พระมีลักษณะพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ให้โชคให้ลาภแก่ผู้ที่มีจิตศรัทธาเลื่อมใสจนเป็นที่กล่าวขานกันในปัจจุบันนี้ เดิมทีเดียวคุณบังอร คิงส์ (เรืองฤทธิ์) เจ้าภาพหล่อองค์พระหลวงพ่อดำได้เดินทางไปที่นมัสการสถานที่สำคัญในประเทศอินเดีย แล้วพบพระพุทธรูปองค์หนึ่งมีลักษณะสีดำ ประดิษฐานอยู่ที่เมืองนาลันทา อันเป็นบ้านเกิดของพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาและยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก ของพระพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองในอดีต แล้วเกิดศรัทธาอยากสร้างพระพุทธรูปประดิษฐานขึ้นที่วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ซึ่งบิดามารดาของคุณบังอร คิงส์ คือ คุณตากวี-คุณยายจอน เรืองฤทธิ์ เป็นผู้อุปถัมภ์บำรุงวัดนี้เรื่อยมาจึงได้พร้อมกับญาติพี่น้องเข้านมัสการปรึกษากับพระครูสุญาณโสภิต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ถึงจิตศรัทธาที่จะสร้างพระพุทธรูปประดิษฐานในอุโบสถ แล้วได้มอบองค์พระหลวงพ่อดำจำลองได้จากประเทศอินเดียให้ช่างไปออกแบบ จนมีลักษณะที่งดงาม มีเมตตา เป็นที่เจริญศรัทธาแก่ผู้ได้พบเห็นดังเช่นปัจจุบันนี้
ดังนั้น วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๖ จึงได้ประกอบพิธีเททองหล่อองค์พระหลวงพ่อดำขึ้น ณ วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง โดยนิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเป็นเป็นสักขีพยานในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้มากมาย เกิดเหตุอัศจรรย์ระหว่างการเททองหล่อพระ เพราะเบ้าหล่อพระอันหนึ่งได้แตกออกเพราะแรงดันไฟที่กำลังลุกโชน โดยปกติหากเบ้าหล่อพระแตก ทองจะไหลออกจากเบ้าหล่อ และจะเกิดความเสียหายแก่องค์พระในที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปช่างหล่อพระได้ตรวจดูองค์พระแล้ว กลับไม่พบรอยแตกปริ หรือพังเสียหาย ทำให้เกิดอัศจรรย์แก่ช่างหล่อพระเป็นอย่างมาก เพราะเบ้าหล่อนั้นได้ใช้มานานกว่า ๓๐ ปี ไม่เคยแตกพังมาก่อน และถ้าเกิดเหตุที่เบ้าหล่อพังก็น่าจะส่งผลให้องค์พระเกิดการบุบเบี้ยวเสียหายได้ แต่นี่กลับไม่ปรากฏว่าองค์พระชำรุดเสียหายแม้แต่น้อย ดังนั้นหลวงพ่อดำจึงได้นามอีกหนึ่งว่า "หลวงพ่อเบ้าแตก" เมื่อเสร็จสิ้นพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปหลวงพ่อดำแล้ว ก็ได้อัญเชิญองค์หลวงพ่อดำประดิษฐาน ณ อุโบสถ ชั้นล่างของวัดตามความประสงค์ในแรกเริ่ม ในเวลาต่อมาหลวงพ่อดำก็ได้แสดงปาฏิหารย์หลายต่อหลายครั้ง เช่น ดลบันดาลให้ชาวบ้านใกล้วัดคนหนึ่งเห็นองค์พระในฝันทั้งที่กำลังจะเดินทางกลับจากกรุงเทพฯมาบ้านตนเองโดยไม่ทราบมาก่อนว่า จะมีการหล่อพระพุทธรูปที่วัดบ้านตัวเอง หรือดลบันดาลให้ชายหนุ่มจากกรุงเทพฯ เดินทางมาสักการะโดยแสดงในฝันให้หนุ่มคนนั้น เดินทางไปนมัสการที่หนองคาย หรือช่างถ่ายภาพได้ถ่ายรูปองค์พระแล้วเกิดแสงประหลาดที่ไม่ได้เกิดจากการตกแต่งภาพแต่อย่างใด และสามเณรรูปหนึ่งพูดจาบจ้วงต่อองค์พระในทางที่ไม่เหมาะสมก็เกิดเป็นกลากขึ้นปากทันทีทันใดจนต้องกราบขอขมาจึงได้หาย
ในปี ๒๕๔๙ หลวงพ่อดำได้แสดงอภินิหารให้คู่บ่าวสาวคู่หนึ่งเกิดสมหวังทางด้านความรัก จนนำไปสู่การแต่งงานอยู่กินด้วยกัน เพราะสาวคนนั้นได้รับมอบหลวงพ่อดำองค์จำลองสำหรับคล้องคอจากท่านพระครูสุญาณโสภิต จากนั้นเธอได้มอบพระองค์นั้นให้กับชายหนุ่มที่เธอนับถือเหมือนพี่ชายตลอดมากว่าสิบปี ขณะนั้นแม่ชีคนหนึ่งที่เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจที่วัดพระธาตุราษฎร์บำรุงเสมอได้เห็นมิตรฝ้ายมงคลโยงระหว่างศีรษะของหนุ่มสาวคู่นั้น จึงได้ปรึกษากับครอบครัวของทั้งสองฝ่ายว่า ทั้งสองเป็นเนื้อคู่กัน อันเกิดจากการดลบันดาลบารมีจากหลวงพ่อดำเป็นแน่แท้ เมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะเจริญก้าวหน้าทำมาค้าขึ้น และต่อมาก็ได้มีพิธีแต่งงานขึ้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อปลายปีนั่นเอง เรื่องนี้มีที่อ้างอิงทั้งตัวบุคคลและสถานที่)
ดังนั้น ท่านที่ปรารถนาจะไปสักการะองค์หลวงพ่อดำก็สามารถเดินทางไปที่วัดพระธาตุราษฎร์บำรุงได้ทุกวัน และ ในปัจจุบันทางวัดได้กำหนดจัดงานนมัสการพระมหาธาตุเจดีย์ ขอพรหลวงพ่อดำ สวดมนต์ข้ามปีขึ้น ซึ่งถือเป็นงานบุญประจำปีของทางวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ในช่วงระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม - วันที่ ๒ มกราคม ของทุก ๆ ปี ในแต่ละปีมีพุทธศาสนิกชนทั้งไทย และลาว ได้มาร่วมงานเพื่อกราบไหว้บูชา พระบรมสารีริกธาตุ และหลวงพ่อดำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดหนองคายอีกหนึ่งองค์ ยังความผาสุก ความเป็นสิริมงคล แก่พุทธศาสนิกชนโดยถ้วนหน้า
ปาฏิหาริย์หลังจากการหล่อหลวงพ่อดำ และทำพิธีพุทธาพิเศก ที่วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง


คำบูชาหลวงพ่อดำ วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง
คำบูชาหลวงพ่อดำ วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง
(โดยพระราชธีราภรณ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย)
“กาฬะ พุทธัสสะ อานุภาเวนะ
โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา ฯ”
“ด้วยอานุภาพหลวงพ่อดำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอความสุขสวัสดี
จงมีแก่ข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเทอญ ฯ”